รายได้ประชาชาติ
รายได้ประชาชาติ
หรือผลิตภัณฑ์ประชาชาติ หมายถึง มูลค่าของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ประเทศได้ในระยะเวลาหนึ่ง
(1 ปี)
การคำนวณผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ (GDP)
2. การคำนวณทางด้านรายจ่าย
3. การคำนวณทางด้านรายได้
การคำนวณ GDP ทางด้านผลผลิต (Product Approach)
1. คำนวณจากสินค้าขั้นสุดท้าย
ตัวอย่าง
ระบบเศรษฐกิจมีการผลิตสินค้า 3 ชนิด คือ ข้าวสาลี แป้งและขนมปัง อย่างละ 3 ชิ้น
โดยมีราคาเท่ากับ 5,10 และ15 บาท ตามลำดับ
GDP
= 3(5)+3(10)+3(15) = 90 บาท
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการคำนวณ GDP จากผลผลิตขั้นสุดท้าย
การนับซ้ำในสินค้าที่อยู่ระหว่างการผลิต
ขั้นการผลิต
|
มูลค่า
|
ข้าวสาลี
แป้ง
ขนมปัง
รวม
|
5
10
15
30
|
2. คำนวณจากผลรวมของมูลค่าเพิ่ม (Total Value Added)
สินค้า
|
ราคา
|
มูลค่าเพิ่ม
|
ข้าวเปลือก
ข้าวสาร
แป้ง
ขนมปัง
GDP
|
0
5
10
15
30
|
-
5
5
5
15
|
การคำนวณ GDP ทางด้านรายจ่าย (Expenditure Approach)
GDP = C + I + G + X - M
C = Personal Consumption Expenditure
I = Gross Private Domestic Investment
G = Government Purchases
X = Export
M =Import
การคำนวณ GDP ทางด้านรายได้ (Income
Approach)
GDP = Wages + Rent + Interest + Profit + Indirect
business tax + Depreciate
Rent = ค่าเช่า
Wages = ค่าจ้าง
Interest = ดอกเบี้ย
Profit = กำไร
Indirect business tax = ภาษีทางอ้อม
Depreciate = ค่า เสื่อมราคา

การคำนวณ GDP จะไม่รวมสิ่งต่อไปนี้
1. สินค้าไม่ผ่านตลาด เช่นแม่บ้าน ปลูกผักกินเอง
2. เงินโอนของภาครัฐและเอกชน
3. สินค้าที่ใช้แล้ว
4. กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ผิดกฎหมาย
5. กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ไม่มีการรายงาน(เลียงกฎหมาย)
6. รายได้ที่เกิดจากการชำระหนี้ และขายสินทรัพย์
7. กำไรที่ได้จากการซื้อขายหุ้น
ข้อพึงระวังในการนำ GDP มาใช้
1. GDP เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น
ไม่ได้หมายถึงเศรษฐกิจดีขึ้น
(เพิ่มขึ้นเพราะอิทธิพลของราคา หรือประชากรเพิ่มขึ้น
2. ไม่ได้บอกว่าคุณภาพชีวิตดีขึ้น (ทำงานหนัก วันพักผ่อนน้อย)ข้อพึงระวังในการนำ
GDP มาใช้
3. ไม่ได้บอกถึงคุณภาพของสินค้าว่ามีคุณภาพดีขึ้นหรือเปล่า
4. GDP อาจเพิ่มขึ้นเพราะการใช้จ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดกิจกรรมการผลิต
(เช่น รัฐซื้ออาวุธทำ G เพิ่มขึ้น)
5. GDP ไม่ได้บอกถึงคุณภาพของสินค้าว่ามีคุณภาพดีขึ้นหรือเปล่า
6. GDP เพิ่มขึ้นแต่ไม่ได้บอกว่าสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงอย่างไร
7. GDP ที่เพิ่มขึ้นไม่ได้บอกประสิทธิภาพการผลิตข้อพึงระวังในการนำ
GDP มาใช้
8. GDPไม่ได้รวมมูลค่าสินค้าที่ไม่ผ่านตลาด
9. GDP ไม่ได้ขจัดการเปลี่ยนแปลงของราคา
เป็น Money GDP
รายได้ประชาชาติต่อหัว
(Income Per Capital )
Income Per Capital = National
Income/ Population
ประโยชน์ของรายได้ประชาชาติ
- ความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศ
เราใช้รายได้ประชาชาติเป็นตัวเปรียบเทียบ ความมั่งคั่ง ความกินดีอยู่ดี ความสามารถในการซื้อของประเทศ
- เป็นการกำหนดแผนการในการพัฒนาเศรษฐกิจ
??? เรื่อง GDP
เป็นตัวชี้วัดความกินดีอยู่ดีของประชาชนที่ดีจริงหรือ ???
GDP หรือ ผลิตภัณฑ์รวมในประเทศ
ที่เราใช้เป็นตัวชี้วัดความกินดีอยู่ดีของประเทศ ถูกคิดค้นเมื่อกว่า 60 ปีก่อน
แม้ว่าจะเป็นวิธีพื้นฐานที่สุดในการวัดและสามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยาก
แต่ก็มีข้อบกพร่องในการที่จะใช้วัดความกินดีอยู่ดีของประชาชน
เพราะยังไม่คำนึงถึงทุกมิติอย่างรอบด้าน ทั้งทางด้านมิติชีวิตและสังคม วัฒนธรรม
และสิ่งแวดล้อม กล่าวคือ
1.
ไม่ได้คำนึงถึงการกระจายรายได้ที่เป็นธรรมหรือความเป็นอยู่ที่ดีของคนส่วนใหญ่ของประเทศ
เพราะการคำนวณ GDP เป็นการนำรายได้ของทุกคนมารวมกันเป็นรายได้ประชาชาติ
โดยไม่คำนึงว่าใครมีรายได้มากใครมีรายได้น้อย
หรือช่องว่างรายได้คนรวยและคนจนเป็นอย่างไร
รายได้ส่วนใหญ่อาจตกอยู่กับคนส่วนน้อยของประเทศก็ได้
2.
ไม่ได้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรม
เพราะ GDP ไม่ได้นำต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมมาคิดรวมด้วย
การผลิตที่ก่อให้เกิดเป็น GDP
นั้นมาพร้อมกับความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ก่อให้เกิดมลภาวะทางน้ำ ทางอากาศ
ดังนั้น ระยะหลังจึงมีการพูดถึง Green GDP ซึ่งก็คือการนำ GDP มาหักด้วยต้นทุนสิ่งแวดล้อม (เช่น การบำบัดน้ำสีย
การจำกัดขยะ) ที่ต้องสูญเสียไปจาก GDP ที่เพิ่มขึ้น
3.
ไม่สนใจที่มาของเงินที่ทำให้ GDP โต อาจจะเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจทางลบ เช่น การพนัน สุรา ยาสูบ
สถาบันเทิงเริงรมย์ ที่ทำให้เกิดอาชญากรรมและอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ความแตกต่างของเมืองกับชนบท ทำให้มีการอพยพย้ายถิ่นมาทำงานในเมือง
ทำให้เกิดปัญหาครอบครัวและสังคม ค่าใช้จ่ายที่ต้องดูแลปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ถูกหักออกจาก
GDP
4. ไม่ได้นับกิจกรรมที่สร้างสรรค์สังคม
เช่นกิจกรรมสร้างความอบอุ่นในครอบครัว การฟังเทศน์ฟังธรรม เป็นต้น
แหล่งที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย
GDP = Wages + Rent + Interest + Profit + Indirect
business tax + Depreciate
Rent = ค่าเช่า
Wages = ค่าจ้าง
Interest = ดอกเบี้ย
Profit = กำไร
Indirect business tax = ภาษีทางอ้อม
Depreciate = ค่า เสื่อมราคา

การคำนวณ GDP จะไม่รวมสิ่งต่อไปนี้
1. สินค้าไม่ผ่านตลาด เช่นแม่บ้าน ปลูกผักกินเอง
2. เงินโอนของภาครัฐและเอกชน
3. สินค้าที่ใช้แล้ว
4. กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ผิดกฎหมาย
5. กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ไม่มีการรายงาน(เลียงกฎหมาย)
6. รายได้ที่เกิดจากการชำระหนี้ และขายสินทรัพย์
7. กำไรที่ได้จากการซื้อขายหุ้น
ข้อพึงระวังในการนำ GDP มาใช้
1. GDP เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น
ไม่ได้หมายถึงเศรษฐกิจดีขึ้น
(เพิ่มขึ้นเพราะอิทธิพลของราคา หรือประชากรเพิ่มขึ้น
2. ไม่ได้บอกว่าคุณภาพชีวิตดีขึ้น (ทำงานหนัก วันพักผ่อนน้อย)ข้อพึงระวังในการนำ
GDP มาใช้
3. ไม่ได้บอกถึงคุณภาพของสินค้าว่ามีคุณภาพดีขึ้นหรือเปล่า
4. GDP อาจเพิ่มขึ้นเพราะการใช้จ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดกิจกรรมการผลิต
(เช่น รัฐซื้ออาวุธทำ G เพิ่มขึ้น)
5. GDP ไม่ได้บอกถึงคุณภาพของสินค้าว่ามีคุณภาพดีขึ้นหรือเปล่า
6. GDP เพิ่มขึ้นแต่ไม่ได้บอกว่าสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงอย่างไร
7. GDP ที่เพิ่มขึ้นไม่ได้บอกประสิทธิภาพการผลิตข้อพึงระวังในการนำ
GDP มาใช้
8. GDPไม่ได้รวมมูลค่าสินค้าที่ไม่ผ่านตลาด
9. GDP ไม่ได้ขจัดการเปลี่ยนแปลงของราคา
เป็น Money GDP

